ก่อนหน้านี้ ผมได้มีโอกาสเข้าไปเรียนรู้ Synology User Workshop ทำให้รู้ว่า NAS ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นในเรื่องการเก็บข้อมูลภาพ วีดีโอ หรือเพลงและหนังที่ยิ่งคุณภาพสูงก็ยิ่งใช้พื้นที่มาก หลายคนอาจจะเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ใน External Harddisk แต่ข้อเสียของ External Harddisk คือต้องต่อสายยุ่งยาก แล้วยิ่งนับวันอุปกรณ์ NAS ก็ยิ่งใช้งานง่ายและตอบโจทย์การใช้งานมากกว่า ระดับผู้ใช้งานตามบ้านก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องระดับองค์กรเสมอไป
Network-Attached Storage (NAS) คืออะไร ?
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล หรืออุปกรณ์สำหรับบันทึกข้อมูลที่สามารถเชื่อมต่อกับเน็ตเวิร์คเพื่อให้บริการด้านการเข้าถึงไฟล์กับผู้ใช้งานภายในบ้าน หรือสำนักงาน และจากภายนอกผ่าน 3G/4G หรือ WiFi Internet
แกะกล่องรีวิว Synology NAS DS218+
หลังจากแกะกล่องก็พบว่าเจ้า NAS 218+ มีขนาดเล็ก (165 mm x 108 mm x 232.2 mm) น้ำหนักแค่ 1.30 kg ซึ่งก็นับว่าเป็นข้อดีจะได้หาพื้นที่วางได้ง่าย ไม่เกะกะ บนโต๊ะทำงานของเรา อุปกรณ์ที่ให้มาก็จะมีดังนี้
1. สายไฟ (AC Power Adapter, AC Power Cord)
2. อุปกรณ์สกรูล็อค (Accessory Pack)
3. สาย Lab Cat5e (RJ-45 LAN Cable)
4. คู่มือการใช้งาน (Quick Installation Guide)
ทีนี้มาดูที่สเปคภายในกันว่าจะมีจุดเด่นอะไรบ้าง
- CPU : Intel Celeron J3355 Dual Core 2.0 burst up to 2.5 GHz
- Memory : 2 GB DDR3L (สามารถเพิ่มแรมได้สูงสุดที่ 6GB มีช่องให้เสียบแรมถึง 2 ช่อง)
- Storage : รองรับการใส่ HDD ได้ถึง 2 ลูก ใส่ได้สูงสุดถึง 24 TB (12TB X 2)
- USB 3.0 Port : มีให้ใช้ถึง 3 พอร์ต
- eSATA Port : 1 พอร์ต
ด้านหน้าตัวเครื่องจะประกอบไปด้วย
- ไฟบอกสถานะ

- ไฟบอกสถานะ
- พอร์ต USB 3.0 จำนวน 1 พอร์ต
- ปุ่ม Copy button
- ปุ่มเปิด/ปิด
ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องนั้นเป็นที่อยู่ของพัดลมขนาน 92 mm คอยระบายความร้อน และที่อยู่ของพอร์ตต่าง ๆ ได้แก่
- พอร์ต LAN 1 พอร์ต
- ช่อง USB 3.0 อีก 2 พอร์ต
- ช่อง eSATA 1 พอร์ต
- ช่องสำหรับต่อสายไฟ
- ปุ่ม Reset
หลังจากที่ได้ชมรอบตัวเครื่องแล้วก็ถึงเวลาแกะตัวเครื่องออกมาดูกัน สำหรับวิธีการแกะก็เพียงดึกหน้ากากด้านหน้าออกมาเบา ๆ เพราะตัวล็อกเป็นยางทำให้สะดวกไม่ต้องออกแรงเยอะ
ส่วนวิธีแกะถาด ใช้นิ้วกดที่ด้านบนของถาดใส่ Harddisk แค่นี้ก็สามารถดึง Harddisk ออกมาได้แล้ว
การ Setup เริ่มต้นใช้งาน Synology NAS DS218+
การติดตั้งนั้นสามารถทำผ่าน browser หรือ App DS Finder สามารถค้นหา NAS โดยป้อนคำสั่ง find.synology.com หรือ diskstation:5000
หลังจากติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะพบกับระบบปฏิบัติการ Disk Station Manager (DSM)
พอถึงจุดนี้ระบบ NAS ของเราก็พร้อมที่จะใช้งานแล้วสิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ ติดตั้งแอปนั่นเอง โดย Application ที่เราจะพูดถึงมีอยู่ดังนี้
1. Application Driver
แอปที่เก็บข้อมูลพวกไฟล์ต่างๆ และยังสามารถที่จะแชร์ให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเข้าถึงไฟล์ได้ง่าย และยังสามารถแก้ไขไฟล์ได้เลยโดยที่ไม่ต้องนำไฟล์เหล่านั้นออกมาแก้ไขข้างนอก
2. Application Cloud Sync
แอปที่เชื่อมต่อข้อมูลระหว่าง Synology NAS กับผู้ให้บริการคลาวด์ต่างๆ และสามารถใช้งานรวมกับ Google Drive, Dropbox, Box, Amazon Drive และอื่นๆ
3. Application USB Copy
แอปคัดลอกไฟล์จาก USB/SD โดยอัตโนมัติ โดยการเสียบ USB แล้วกดปุ่มที่หน้าเครื่องรูป C (Copy button) ข้อมูลก็จะถูกส่งมาที่ NAS อย่างรวดเร็ว และสามารถตั้งค่าที่หลากหลาย Multi-versioned, Mirroring, Incremental
4. Application Moments
แอปที่ช่วยเก็บข้อมูลภาพจากการถ่ายรูปไว้เป็นช่วงเวลาและสถานที่ไว้ชัดเจน
5. Application Video Station
แอปที่ช่วยสร้างคลังภาพยนตร์ วิดีโอต่างๆ สามารถดูไฟล์ได้ทุกที่ทั่วโลกผ่านมือถือด้วยแอป DS video สามารถสร้างปกของวิดีโอออกมาได้และจัดเรียงไว้เป็นลำดับค่อนข้างดี และเมื่อเปิดดูไฟล์วิดีโอสามารถเล่นแบบ Resume ได้ด้วย และยังเลือก Subtitle ที่ต้องการได้
6. Application Audio Station
แอปที่ช่วยสร้างคลังเพลง สามารถทำ iTunes Server เปิดฟังเพลงผ่าน smart phone ได้
** สำหรับใครที่กำลังมองหา NAS ไว้ใช้ในบ้านหรือที่ทำงาน Synology DS218+ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.synology.com/en-global/products/DS218+
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น